August 12, 2019
For democracy, justice and the rule of law to be restored in Thailand, the Government must immediately amend the 2017 Constitution, end judicial harassment of opposition MPs, lift restrictions on fundamental freedoms, and ensure the safety of human rights activists, ASEAN Parliamentarians for Human Rights (APHR) said today.
“Despite what the former junta and its allies would have you believe, the recent election did not bring democracy back to Thailand. The military maintains its unchecked control over Thailand’s political system, and authorities continue to restrict fundamental freedoms,” said Maria Chin Abdullah, APHR Member and Malaysian Member of Parliament (MP).
This month, APHR members including current and former MPs from Malaysia, the Philippines and Timor-Leste, met with representatives from civil society organizations, the UN and Thai political parties during a Fact-Finding Mission to Thailand to assess the post-election state of democracy and civic space. Based on its findings, APHR has called on the Government of Thailand to immediately implement a number of core measures that will help to ensure the full restoration of democracy and improve respect for fundamental freedoms in the country.
APHR also calls on ASEAN member states and the international community to use all available means to press the Thai government to fully restore democracy and support democratic actors in Thailand.
“The only way forward to restore democracy, guarantee the separation of powers and ensure that elected representatives can play the role they are due to in a democratic state, is to amend the 2017 Constitution,” said Maria Angelina Lopes Sarmento, APHR Board Member and an MP in Timor-Leste. “No one should be mistaken the sole objective of the 2017 Constitution is to ensure, regardless of the election results, that the outgoing military junta could retain its grip on both the executive and legislative branches of government.”
Since the deeply flawed election, the authorities have continued to suppress critical voices by judicially harassing opposition MPs, criminalizing peaceful dissent, and monitoring activists. In a clear attempt to silence the opposition, the Future Forward Party is now facing a total of 21 judicial cases. Particularly worrying also, is the increase in the number of brutal physical attacks against pro-democracy activists and other opponents of the military’s involvement in politics.
“The ongoing judicial harassment of opposition MPs, as well as the manipulation of the election process, is a clear illustration that the authorities are not ready to embrace the principle of democracy and fundamental freedoms. It is time for the Thai military and other authorities to understand that as long as the people are prevented from choosing their own leaders in a free and open process, the country will continue to be mired by political strife and instability,” said Charles Santiago, APHR Chair and a member of the Malaysian Parliament. “A democracy cannot function if citizens fear jail or worse, solely for expressing their opinion.”
The unchecked powers of the military and its allies and the harassment and attacks on the opposition and civil society will continue to set back the state of democracy and human rights in Thailand, APHR said.
“Thailand will need the support of its regional and international partners to ensure it returns to democracy. While there is some space in the Parliament to reform Thailand’s repressive legal framework and amend the Constitution, for that to happen, the opposition has to survive and be able to work in a safe and enabling environment,” said Santiago.
APHR’s full recommendations to the Government of Thailand are available here.
เพื่อให้ประชาธิปไตย ความยุติธรรม และหลักนิติธรรมฟื้นคืนมาในประเทศไทย รัฐบาลไทยจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ยุติการใช้กระบวนการยุติธรรมคุกคามฝ่ายค้าน ยกเลิกการจำกัดเสรีภาพขั้นพื้นฐานและรับรองความปลอดภัยของนักกิจกรรมสิทธิมนุษยชนโดยทันที กลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (ASEAN Parliamentarians for Human Rights: APHR) แถลงในวันนี้
“ไม่ว่ารัฐบาลทหารชุดก่อนหน้านี้และแนวร่วมต้องการให้คุณเชื่อเช่นไร การเลือกตั้งที่ผ่านไม่ได้นำพาประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประเทศไทย ทหารยังคงดำรงไว้ซึ่งอำนาจที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเหนือระบบการเมืองไทย และผู้มีอำนาจก็ยังจำกัดเสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง” Maria Chin Abdullah สมาชิก APHR และสมาชิกรัฐสภามาเลเซียกล่าว
ในเดือนนี้สมาชิก APHR ซึ่งรวมถึงสมาชิกและอดีตสมาชิกรัฐสภาจากประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และติมอร์-เลสเตได้พบปะกับตัวแทนองค์กรภาคประชาสังคม สหประชาชาติและพรรคการเมืองไทยหลายพรรคระหว่างภารกิจค้นหาความจริง (Fact-Finding Mission) ณ ประเทศไทย เพื่อประเมินสถานการณ์ประชาธิปไตยและพื้นที่การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมหลังจากเลือกตั้ง จากภารกิจดังกล่าว APHR ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการโดยทันที เพื่อรับรองการฟื้นคืนของประชาธิปไตยและการเคารพต่อเสรีภาพขั้นพื้นฐานในประเทศไทย
APHR ยังเรียกร้องให้ประเทศอาเซียนและประชาคมนานาชาติใช้มาตรการทุกอย่างที่ทำได้เพื่อกดดันรัฐบาลไทยให้ฟื้นคืนประชาธิปไตยและสนับสนุนตัวแสดงทางประชาธิปไตยในประเทศไทย
“หนทางเดียวที่จะเดินหน้าในการฟื้นคืนประชาธิปไตย รับรองหลักการแบ่งแยกอำนาจและรับรองว่าผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งได้แสดงบทบาทในรัฐประชาธิปไตยตามที่ควร คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560” Maria Angelina Lopes Sarmento กรรมการบอร์ด APHR และสมาชิกรัฐสภาติมอร์-เลสเตกล่าว “ไม่มีใครควรเข้าใจผิด วัตถุประสงค์เดียวของรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 คือการรับรอง โดยไม่เกี่ยวว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นเช่นไร ว่ารัฐบาลทหารยังสามารถคงไว้ซึ่งอำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติ”
นับตั้งแต่การเลือกตั้งที่บกพร่อง ผู้มีอำนาจยังคงปราบปรามเสียงวิพากษ์วิจารณ์โดยใช้กระบวนการยุติธรรมคุกคามสมาชิกฝ่ายค้าน ลงโทษทางอาญาต่อความเห็นต่างโดยสงบและติดตามนักกิจกรรม ในความพยายามที่จะปิดปากเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายค้าน ณ ขณะนี้พรรคอนาคตใหม่เผชิญกับคดีความ 21 คดี สิ่งที่น่าวิตกกังวลอย่างมากอีกอย่างหนึ่งก็คือการที่ความรุนแรงทางกายภาพที่กระทำต่อนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยและผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่ทหารเข้ามายุ่งกับการเมืองนั้นพุ่งสูงขึ้น
“การใช้กระบวนการยุติธรรมคุกคามฝ่ายค้าน รวมถึงการจัดการกับกระบวนการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้มีอำนาจไม่พร้อมที่จะโอบรับหลักการประชาธิปไตยและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ถึงเวลาแล้วที่ทหารไทยและผู้มีอำนาจทั้งหลายจะต้องเข้าใจว่า ตราบใดที่ประชาชนยังถูกขัดขวางไม่ให้ได้เลือกผู้นำของตนเองภายใต้กระบวนการที่เป็นอิสระและเปิดเผย ประเทศไทยก็จะยังติดอยู่ในหล่มของความขัดแย้งทางการเมืองและความไม่มั่นคง” Charles Santiago ประธาน APHR และสมาชิกรัฐสภามาเลเซียกล่าว “ประชาธิปไตยไม่สามารถทำงานได้ถ้าประชาชนหวาดกลัวคุก เพียงเพราะแสดงความคิดเห็นของตน”
อำนาจที่ไม่ได้รับการตรวจสอบของทหารและแนวร่วม การคุกคามและทำร้ายฝ่ายค้านและภาคประชาสังคมจะสานต่อภาวะถดถอยของประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย APHR กล่าว
“ประเทศไทยต้องการแรงสนับสนุนระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติเพื่อรับรองการกลับสู่ประชาธิปไตย ในขณะที่ยังพอมีพื้นที่ในรัฐสภาเพื่อปฏิรูปกรอบทางกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพและแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ ฝ่ายค้านจะต้องดำรงอยู่และจะต้องได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเอื้ออำนวย” Santiago กล่าว
อ่านข้อเสนอแนะของกลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนต่อรัฐบาลไทยฉบับเต็มได้ที่นี่
ASEAN Parliamentarians for Human Rights (APHR) was founded in June 2013 with the objective of promoting democracy and human rights across Southeast Asia. Our founding members include many of the region's most progressive Members of Parliament (MPs), with a proven track record of human rights advocacy work.